เมนู

ปุคคลวรรคที่ 4

10. สังโยชนสูตร


ว่าด้วยบุคคล 4 จำพวก


[131] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล 4 จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก
4 จำพวกเป็นไฉน ? ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ ยังละ
โอรัมภาคิยสังโยชน์ไม่ได้ ยังละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้อุบัติไม่ได้
ยังละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้ภพไม่ได้.
อนึ่ง บุคคลบางคนในโลกนี้ ละโอรัมภาคิยสังโยชน์ได้ แต่ยังละ
สังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้อุบัติไม่ได้ ยังละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้-
ได้ภพไม่ได้.
อนึ่ง บุคคลบางคนในโลกนี้ ละโอรัมภาคิยสังโยชน์ได้ ละสังโยชน์
อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้อุบัติได้ แต่ยังละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้ภพ
ไม่ได้.
อนึ่ง บุคคลบางคนในโลกนี้ ละโอรัมภาคิยสังโยชน์ได้ ละสังโยชน์
อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้อุบัติได้ สะสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้ภพได้.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลจำพวกไหน ยังละโอรัมภาคิยสังโยชน์
ไม่ได้ ยังละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ไค้อุบัติไม่ได้ ยังละสังโยชน์อันเป็น
ปัจจัยเพื่อให้ได้ภพไม่ได้ คือ พระสกทาคามี ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลนี้แล
ยังละโอรัมภาคิยสังโยชน์ไม่ได้ ยังละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้อุบัติไม่ได้
ยังละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้ภพไม่ได้.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลจำพวกไหน ละโอรัมภาคิยสังโยชน์ได้ แต่
ยังละสังโยชน์อัน เป็นปัจจัยเพื่อให้ได้อุบัติไม่ได้ ยังละสังโยชน์อันเป็นปัจจัย เพื่อ
ให้ได้ภพไม่ได้ คือ พระอนาคามีผู้มีกระแสในเบื้องบน ไปสู่อกนิฏฐภพ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลนี้แล ละโอรัมภาคิยสังโยชน์ได้ แต่ยังละสังโยชน์
อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้อุบัติไม่ได้ ยังละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้ภพ
ไม่ได้.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลจำพวกไหน ละโอรัมภาคิยสังโยชน์ได้
ละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้อุบัติได้ แต่ยังละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อ
ให้ได้ภพไม่ได้ คือ พระอนาคามีผู้อันตราปรินิพพายี ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
บุคคลนี้แล ละโอรัมภาคิยสังโยชน์ได้ ละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้อุบัติ
ได้ แต่ยังละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้ภพไม่ได้.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลจำพวกไหน ละโอรัมภาคิยสังโยชน์ได้
ละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้อุบัติได้ ละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้
ภพได้ คือ พระอรหันตขีณาสพ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลนี้แล ละโอรัม-
ภาคิยสังโยชน์ได้ ละสังโยชน์อันเป็นปัจจัยเพื่อให้ได้อุบัติได้ ละสังโยชน์อันเป็น
ปัจจัยเพื่อให้ได้ภพได้.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล 4 จำพวกนี้แล มีปรากฏอยู่ในโลก
จบสังโยชนสูตรที่ 1

ปุคคลวรรควรรณนาที่ 4



อรรถกถาสังโยชนสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในสังโยชนสูตรที่ 1 แห่งวรรคที่ 4 ดังต่อไปนี้ :-
บุคคลบางคนได้อุปบัติได้ภพ ในระหว่างด้วยสังโยชน์เหล่าใด
สังโยชน์เหล่านั้น ชื่อว่าเป็นปัจจัยให้ได้อุปบัติ. บทว่า ภวปฏิลาภิยานิ
ได้แก่ เป็นปัจจัยแก่การได้อุปบัติภพ. บทว่า สกทาคามิสฺส นี้ ท่านถือ
โดยส่วนสูงสุดในพระอริยะทั้งหลาย ที่ยังละสังโยชน์ไม่ได้ ก็เพราะเหตุนี้
อันตราอุปบัติ (การเกิดในระหว่าง) ของพระอริยบุคคลผู้เป็นอันตรา-
ปรินิพพายีไม่มี แต่ท่านเข้าฌานใดในที่นั้น ฌานนั้นนับว่าเป็นปัจจัยแก่
อุปบัติภพ เพราะฌานเป็นฝ่ายกุศลธรรม ฉะนั้น จึงตรัสสำหรับพระอริยบุคคล
ผู้เป็นอันตราปรินิพพายีนั้นว่า ละอุปบัติปฏิลาภิยสังโยชน์ได้ (สังโยชน์ที่เป็น
เหตุให้มีความเกิด) แต่ละภวปฎิลาภิยสังโยชน์ (สังโยชน์ที่เป็นเหตุให้มีภพ)
ไม่ได้. หมายถึงสังโยชน์ส่วนที่ยังละไม่ได้ในโอรัมภาคิยสังโยชน์ทั้งหลาย จึง
ตรัสว่า ละโอรัมภาคิยสังโยชน์ไม่ได้ดังนี้ โดยความไม่ต่างกันแห่งสกทาคามี
บุคคล. บทที่เหลือในสูตรนี้ง่ายทั้งนั้น.
จบอรรถกถาสังโยชนสูตรที่ 1